EP7 ไอซ์แลนด์ ความล้มเหลวคือความสุข

ไอซ์แลนด์ประเทศที่ติดอันดับ ประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

ประเทศไอซ์แลนด์มีสภาพอากาศที่ถูกปกคลุมไปด้วยความหนาวเย็นและสภาพอากาศที่แปรปรวน น้อยครั้งที่ได้เห็นแสงแดด

ขนาดพื้นที่ประเทศที่ไม่ได้ใหญ่ และด้วยประชากรประมาณเพียง 300,000 คน ประเทศที่ไม่ได้มีชื่อเสียง เมืองหลวงไม่ได้เป็นมหานครใหญ่โต แต่กลับเป็นประเทศที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลกอยู่บ่อยครั้ง

The Geography of Bliss หรือ ภูมิศาสตร์แห่งความสุข หนังสือที่ได้พูดถึงหลายๆประเทศในโลก มีบทหนึ่งที่กล่าวถึงประเทศนี้ว่า " ไอซ์แลนด์ ความล้มเหลวคือความสุข "

อะไรที่ทำให้ประเทศหนึ่งมองว่าความล้มเหลวเป็นความสุขไปได้

ทำความเข้าใจจากภูมิหลังของประเทศ

1. สภาพภูมิอากาศ ความหนาว
   • ทำให้ทุกคนต้องมาร่วมมือกันทำงาน เพื่อให้ได้ผลผลิตให้มากที่สุด
   • แม้ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ทำให้ไม่ต้องร่วมมือกันทำงานแบบในอดีต แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปคือความรู้สึกที่เป็นเครือญาติกัน
     
2. สภาพภูมิประเทศ ความไม่แน่นอนของธรรมชาติ
   • แผ่นดินไหว ผู้คนมีความตระหนักว่าชีวิตวางอยู่บนความไม่แน่นอน
   • ยิ่งคนเราอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเองและมีความไม่แน่นอน ทำให้ผู้คนมีความโอ้อวดน้อยลง สำนึกว่าเราไม่ได้สำคัญ สิ่งนี้ทำให้คนไอซ์แลนด์มีความสัมพันธ์ในลักษณะแบบเพื่อนไม่ได้มีการแข่งขันหรือเอาชนะกันมาก
3. ความมืด
   • การรับมือกับความมืดของชาวไอซ์แลนด์ " เรื่องของความมืดจงอย่าต่อสู้กับมัน จงโอบรับมัน "
   • ปรับใจยอมรับ เพียงคุณโอบรับความมืด ความมืดก็เป็นเพื่อนได้เหมือนกัน
     
4. ขนาดของประเทศที่ไม่ได้ใหญ่ และจำนวนประชากรน้อย
   • ทำให้ผู้คนมีความเชื่อมโยงกัน ว่ากันว่าทุกคนในประเทศนี้เป็นญาติกัน
   • มุมมองถึงปัญหาในสังคมของคนไอซ์แลนด์ ผู้คนไม่บ่นถึงปัญหาของส่วนรวมเพราะทุกคนช่วยกันแบ่งรับภาระนั้น แต่กลับให้ความสำคัญกับปัญหาของปัจเจกบุคคลมากกว่า
   • เมื่อคนมีสวัสดิการทางสังคมที่ดีแล้ว ผู้คนก็จะมีจิตสำนึกที่จะห่วงใยเพื่อนๆร่วมสังคม ว่าเค้าควรจะได้มีชีวิตที่ดีเหมือนกันกับเรา
   • ที่นี่มีจำนวนนักเขียน ศิลปินในสาขาต่างๆมาก เมื่อเทียบสัดส่วนกับประเทศอื่นๆ เพราะบรรยากาศแห่งการสร้างสรรค์ ใครได้ดีก็ชื่นชม ไม่มีการอิจฉา หมั่นไส้ ขัดแข้งขัดขากัน มีการให้ความร่วมมือกัน มีการส่งเสริมกัน จึงนำไปสู่กับแข่งขันที่น่าสนใจ
   • คำว่า compete ( การแข่งขัน) มีรากมาจากภาษาละติน มาจากคำว่า การแสวงหาร่วมกัน หมายความว่าการแข่งขันโดยรากของมันแล้วไม่ใช่การแข่งเพื่อที่จะจัดการอีกฝ่ายให้แพ้แล้วล้มตายไป แต่คือการที่สองฝ่ายเดินออกไปแสวงหาอะไรใหม่ร่วมกัน
   • ความเชื่อว่า ความล้มเหลวไม่ใช่เรื่องที่จะต้องถูกประณาม ชื่นชอบคนที่กล้าล้มเหลว ความล้มเหลวมีคุณค่าเพราะความล้มเหลวจะทำให้คนอื่นได้ต่อยอดให้พัฒนาขึ้นไปอีก
   • เปิดโอกาสทำให้คนกล้าคิด กล้าทำ แม้จะเกิดความล้มเหลว
   • การจะสร้างสังคมแห่งการสร้างสรรค์ โดยที่ให้ความสำคัญเฉพาะกับคนที่ประสบความสำเร็จ อาจเป็นการปิดพื้นที่ให้กับคนที่อยากจะเริ่มหรือลองทำอะไรใหม่ๆ

เรื่องทั้งหมดนี้ นำมาซึ่งการอยู่ร่วมกันเพื่อต่อสู้กับสภาพอากาศ ภูมิประเทศที่ไม่น่าอยู่ แต่กลับน่าอยู่มากๆเพราะบรรยากาศที่มนุษย์ด้วยกันที่ช่วยกันสร้างร่วมกันขึ้นมา

ความสุขกับความเศร้าไม่ใช่เรื่องตรงข้ามกัน คนหนึ่งสามารถมีความสุขร่วมไปพร้อมๆกับความเศร้า และเราก็สามารถค้นพบความสุขได้ในระหว่างที่เราเศร้า

การวัดค่าสังคมสังคมหนึ่ง

ให้ดูว่าสังคมนั้นเปลี่ยนแปลงความเจ็บปวดและทนทุกข์นั้นให้มีคุณค่าอย่างไร ไม่ใช่สิ่งที่สังคมนั้นหลีกเลี่ยง พยายามปัด พยายามลืม ความเจ็บปวดและทนทุกข์

บทสรุป

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ไม่ได้หลีกเลี่ยงเรื่องราวร้ายๆ แต่หาวิธีอยู่ร่วมด้วย เพราะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เกิดสิ่งที่ดีตามมาก็ได้

ในความเศร้าก็มีความสุขอยู่ในนั้น ในวันที่ฟ้ามืดครึ้มก็มีงานสังสรรค์กันได้ ในความล้มเหลวก็มีความคิดสร้างสรรค์งอกเงยขึ้นมา ในพื้นที่ที่เล็กมากก็ก่อให้เกิดมิตรภาพ

ไอซ์แลนด์สอนให้มอง 2 ด้านของเหรียญ เมื่อมีสิ่งหนึ่งไม่ดี ก็จะมีอีกสิ่งหนึ่งที่ดีเกิดขึ้น

ไอซ์แลนด์สอนเราว่า ความสุขอาจจะไม่ได้เกิดจากความสมบูรณ์แบบของชีวิต โดยที่ไม่มีความเจ็บปวดหรือล้มเหลวเลย แต่เชื่อว่าสิ่งร้ายๆทั้งหลาย ความมืด ความล้มเหลว หรืออะไรแย่ๆเหล่านั้นไม่ได้กำหนดความสุขของเราทั้งหมด

ในความมืดมีความสุขซ่อนอยู่ แค่เราอย่าเอาไปแต่จ้องมองท้องฟ้ามืดๆ เพราะว่า

" ท่ามกลางฟ้ามืดๆ เรายังสามารถสร้างสรรค์ชีวิตที่มีความสุขของเราได้ "